การกลับมาของมหาเธร์ และแนวโน้มการเมืองมาเลเซียหลังชัยชนะของพรรคฝ่ายค้าน


มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีวัย ๙๒ แห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังนำพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านชนะเลือกตั้งถล่มทะลายโค่นนาจิบ ราซัก ผู้นำพรรครัฐบาล UMNO ที่ผูกขาดการเมืองมาเลเซียมากว่า ๖๑ ปี หลังมาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒


ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนมาเลเซียเทคะแนนให้มหาเธร์

  • ประการแรก คดีวันเอ็มดีบีเล่นงานนาจิบทำคะแนนนิยมลด นายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีแห่งพรรครัฐบาลอัมโนได้รับความนิยมน้อยลง จากที่มีข่าวการทุจริตสุดฉาว "วันเอ็มดีบี" จากกรณีที่การโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวนายนาจิบกว่า ๒.๑ หมื่นล้านจากกองทุนพัฒนาแห่งรัฐ (1DMB) ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชน ถึงแม้ว่าที่ผ่านจะมีชาวมาเลเซียออกมาชุมนุมเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งแต่นายนาจิบก็หาลู่ทางเอาตัวรอดได้ตลอดมา
  • ประการที่สอง ฝ่ายค้านจับมือกับมหาเธร์ผู้เป็นรัฐบุรุษแห่งมาเลเซีย ท่ามกลางค่าครองชีพถีบตัวสูงขึ้นจากการบริหารประเทศด้านเศรษฐกิจของนายนาจิบไม่น่าพอใจเท่าที่ควร ทำให้พรรคฝ่ายค้านยกขึ้นมาเป็นประเด็นโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายค้านที่ได้รับการสนับสนุนจากคนในเขตเมืองเชื้อสายจีนและอินเดีย ออกมาสนับสนุนฝ่ายค้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ขณะที่ฝ่ายค้านสนับสนับสนุนมหาเธร์ ผู้ซึ่งได้ยังคงได้รับความนิยมจากชนบทตลอดกาล อีกทั้งยังเป็นเสมือนรัฐบุรุษแห่งพรรครัฐบาลอัมโน ที่ตนเองลาออกจากพรรคมาเมื่อไม่นานมานี้จากประเด็นที่ไม่พอใจกับการกระจำของนายนาจิบ ศิษย์รักผู้ที่ตนปลุกปั้นมากับมือ เพื่อมาร่วมกับฝ่ายค้านหวังจะกอบกู้มาเลเซียขึ้นมาอีกครั้ง



การเมืองมาเลเซียหลังมหาเธร์ชนะเลือกตั้ง

  • ดำเนินคดีทุจริตกับนาจิบ ทันทีที่มหาเธร์สาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ได้สั่งห้ามนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีและภรรยาออกนอกประเทศ ซึ่งพวกเขามีแผนจะบินไปพักผ่อนกับครอบครัวที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย มีชาวมาเลเซียจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าเขาจะใช้โอกาสนี้หลบหนีการดำเนินคดี โดยที่ก่อนหน้านี้มหาเธร์ประกาศชัดหากตนเองชนะเลือกตั้งจะให้มีการพิจารณาดำเนินคดีนี้อย่างจริงจัง
  • นิรโทษกรรมอันวา อิบราฮิม นักโทษการเมืองที่ถูกกลั่นแกล้ง นักโทษการเมืองฝ่ายค้านอย่างอันวา อิบบราฮิม ที่เคยถูกต้องโทษด้วยการถูกกล่าวหาว่ามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งในมาเลเซียถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย อันวาถูกนำตัวเข้าเรือนจำเมื่อครั้งที่มหาเธร์ยังอยู่กับพรรคอัมโน ทันทีที่ตนชนะเลือกตั้งจึงได้ล้างมณฑิลตนเองจากการที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับการดำเนินคดีกับอันวาในครั้งนั้น ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งจึงได้ฎีกาพระราชทานอภัยโทษให้อันวาโดยทันที และลั่นว่าจะเตรียมปูทางอันวาขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำต่อไป

การชนะเลือกตั้งของพรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย นับว่าเป็นปรากฎการณ์ครั้งสำคัญของการเมืองมาเลเซียที่แสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนสามารถโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการแบบพรรคเด่นพรรคเดียวได้เป็นผลสำเร็จ พรรคอัมโนถือเป็นพรรคที่มีพลังและทรงอิทธิพลต่อการเมืองมาเลเซียมาตั้งแต่ยุคก่อตั้งประเทศ แต่ทว่ากว่า ๖๑ ปีที่อดีตคนมาเลเซียเคยเชื่อความเป็นเผด็จการพรรคเดียวอย่างอัมโนว่าจะนำผลประโยชน์สูงสุดมาสู่คนเชื้อสายมาเลย์ได้เสื่อมศรัทธาลง บัดนีทั้งคนมาเลเซียเชื้อสายมาเลย์ จีน และอินเดีย ทั้งหลายกำลังย่างก้าวมาสู่ยุคเปลี่ยนผ่านที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านกลับมาคงบทบาทเป็นรัฐบาล การประสานผลประโยชน์ของคนสามเชื้อชาติจะเป็นไปเช่นไร 

หรือการเลือกตั้งครั้งนี้ที่พรรคฝ่ายค้านชนะเพียงเพราะคนเชื้อสายมาเลย์ส่วนใหญ่เพียงแค่อยากสั่งสอนนายนาจิบและพรรคอัมโน แล้วการเลือกตั้งครั้งหน้าหากไร้ร่มเงามหาเธร์ คนมาเลย์จะยังคงเลือกพรรคฝ่ายค้านที่มิใช้อัมโนอยู่อีกหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องน่าน่าคิดและชวนติดติดตามกันต่อไป

แต่อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาท่ามกลางการเปลี่ยนหลายๆ ด้านในยุคข้อมูลข่าวสาร ยุคที่ประชาชนมีสื่อโซเซี่ยลมีเดียเป็นเครื่องมือในการแสดงออก จนนำไปสู่พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงด้วยบัตรเลือกตั้งบนเส้นทางแห่งประชาธิปไตย ประชาชนมาเลเซียทำให้โลกต้องจดจารึกไว้ว่าครั้งหนึ่งตนเองได้โค่นล้มผู้นำและพรรคการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศตนของได้สำเร็จและสง่างามโดยไร้เสียงปืนและร่องรอยของล้อรถถัง