วิกฤตไครเมียชนวนสงครามเย็นรอบสอง
สถานการณ์ร้อนระอุเมื่อไครเมียขอแยกตัวออกจากยูเครนแล้วผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซียโดยผ่านการลงประชามติของชาวไครเมียอย่างท่วมท้น ท่ามกลางความไม่พอใจของชาติตะวันตกอย่างประเทศในสหภาพยุโรปและสหรัฐ ที่มีท่าทีปฏิเสธต่อการกระทำดังกล่าว โดยสหรัฐประกาศชัดว่าจะคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่รัสเซียเองก็ประกาศยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซียซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของไครเมีย อีกทั้งไครเมียนั้นยังคงเป็นฐานทัพเรือที่สำคัญของรัสเซียอีกด้วย แต่ดูเหมือนว่าท่าทีของสหภาพยุโรปค่อนข้างจะไม่หนักแน่นเพียงพอที่จะมีมติคว่ำบาตรรัสเซีย เนื่องจากสหภาพยุโรปยังคงต้องพึ่งพาการลำเลียงแก๊สจากรัสเซียอยู่ หากประเด็นนี้จะต้องทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหภาพยุโรปต้องสะดุดลง ก็อาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของยุโรปได้ ส่วนท่าทีของมหาอำนาจอย่างประเทศจีนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียมากขึ้นนั้นยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดีจีนยังคงสงวนท่าทีต่อจุดยืนกรณีดังกล่าวเพราะจีนก็หวั่นวิตกว่าอาจเป็นการเปิดทางให้ไต้หวันขอแยกตัวออกจากจีนก็เป็นได้ นักวิชาการหลายคนวิเคราะห์ว่าประเด็นวิกฤตไครเมียในครั้งนี้อาจเป็นการเปิดทางนำไปสู่สงครามเย็นรอบใหม่ ที่สร้างความตึงเครียดและการทัดทานกันระหว่างมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ยุโรป และจีน ซึ่งมีผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและการทหารเป็นเดิมพัน
ภาพและวีดีโอจาก Thai PBS